เรื่องย่อ

อีกประเด็นเป็น The Discovery (2017) หนังปรัชญาจาก Netflix เป็นหนังที่ตั้งปัญหากับว่า “โลกขณะนี้หรือโลกที่ความตาย โลกไหนดียิ่งกว่ากัน” อีกทั้งยังตอบปัญหาว่า ความตายเป็นอย่างไร ความตายเป็นวาระสุดท้ายของการเดินทางของชีวิตไหม เนื้อหาของหนังย้ำไปที่การทดลองเกี่ยวกับการมีอยู่ของชีวิตด้านหลังความตาย อย่างไรก็ดีหนังทั้งคู่เรื่องที่กล่าวไปนั้น หัวใจหลักของเรื่องกลับเอ่ยถึงกระบวนการทำให้มีความคิดเห็นว่า ค่าสำคัญที่สุดก็คือการมีชีวิตอยู่นั่นเอง กลับมาที่ GHOST LAB ฉีกกฎทดสอบผี เป็นหนังสายวิทยาศาสตร์จาก GDH ที่ ควบคุมโดย ปวีณ ภูรีจิตสติปัญญา ที่เคยฝากผลงานหนังสยองขวัญมาแล้วทีนี้คือ บอดี้ ศพ19 (2550), สี่แพร่ง (2551) ตอน “ยันต์สั่งตาย” แล้วก็ ห้าแพร่ง (2552) ตอน “หลาวชะโอน” พร้อมด้วยกลุ่มอำนวยการสร้างชุดใหญ่จาก GTH เดิม โดยเหตุนี้ ก็เลยออกจะไว้ใจได้ว่า หนังต้องมีบางสิ่งที่พิเศษไปกว่าการทดสอบเรื่องผีอย่างแน่แท้ GHOST LAB ฉีกกฎทดสอบผี เล่าราวของหมอชายหนุ่มกล้าหาญ แสดงนำโดย ไอซ์-พาริส กับแพทย์ชีวี แสดงนำโดยต่อ-ธนโลก ในช่วงเวลาค่ำคืนหนึ่งทั้งคู่คนเข้ายามกะกลางคืน แล้วได้มองเห็นผีตัวเป็นๆในโรงหมอ ทั้งคู่ก็เลยได้ตกลงด้วยกันว่าจะดำเนินการศึกษาค้นคว้าเรื่องผี เพื่อพิสูจน์ให้ผู้คนได้ทราบว่าผีมีจริง แล้วก็หวังว่าจะได้ลงวารสารงานค้นคว้าวิจัยสุดยอด ทั้งคู่คนเริ่มดำเนินงานศึกษาค้นคว้าโดยการไล่ถ่ายทำในโรงหมอยาในทุกช่วงกลางคืน แต่ว่าการใกล้เคียงกับผีเยอะที่สุดก็แค่การเห็นข้าวของต่างๆย้ายที่ได้เอง แล้วก็โน่นมันก็ยังไม่อาจจะพิสูจน์การมีตัวตนของผีได้ แต่ว่าแล้ววันหนึ่งพวกเขาทั้งคู่ก็เริ่มคิดได้ว่า ต้นสายปลายเหตุการปรากฏตัวของผีที่จะทำให้ใครซักคนหนึ่งได้มองเห็นนั้น มันคงจะมีตัวแปรที่สำคัญสักอย่าง ทั้งคู่ก็เลยเริ่มระบุตัวแปรใหม่เป็น ผีหรือวิญญาณของผู้ที่รู้จัก กับผีหรือวิญญาณที่คนไม่เคยทราบ ซึ่งการที่พวกเรามองเห็นผีนั้น พวกเรามองเห็นผีจากตัวแปรตัวไหนมากยิ่งกว่ากัน แล้วก็เริ่มหาผู้เข้าร่วมทดสอบ แต่ว่าสิ่งที่เขาทั้งคู่คนทำมันเริ่มเกินเลยคำว่าจริยธรรม และก็มันกำลังลำเส้นและก็การเส้นนี้จุงทำให้มีการเกิดผลด้านร้ายตามมาจนกระทั่งไม่บางทีอาจสามารถปรับแก้ได้ ซึ่งเรื่องราวจะเป็นอย่างไรถัดไปนั้นก็ขอให้รับดูได้ทาง Netflix เลยนะครับ จำต้องขอบอกก่อนเลยว่า ถ้าเกิดจะใส่ความมีเหตุผลหรือตรรกะ GHOST LAB ฉีกกฎทดสอบผี ผมว่าไม่น่าจะมี ทั้งหมดทุกอย่างในหัวข้อนั้นดูอย่างกับว่ามันจะออกไปไกลเหลือเกินมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการตกลงใจทำบางอย่าง หรือการจะทำบางสิ่งบางอย่างเพื่อสำเร็จที่ตามมาดูเหมือนมันจะเกือบจะไม่ค่อยมีเหตุผล รวมทั้งราวกับจะไม่ค่อยมีพลังมากพอ ที่จะทำให้นักแสดงลงมือกระทำอย่างนั้น เอาง่ายๆว่า แรงกระตุ้นที่กระตุ้นแล้วส่งผลให้มีการเกิดความประพฤติปฏิบัตินั้นยังไม่ทรงประสิทธิภาพมาพอนั่นเอง แต่ว่าหนังมันก็มิได้ไร้เหตุผลอะไรไปซะขนาดนั้น เนื่องจากว่าหนังเข้าทำให้พวกเรามองเห็นเลยว่า การตัดสินใจทำบางสิ่ง ในตอนแรกพวกเราบางครั้งก็อาจจะยังคิดทบทวนน้อยเกินไป แล้วเมื่อผลปรากฏว่ามันก็เลยไม่เป็นตามที่หวัง หนังเขาพยามยามบอกเรื่องเหตุและก็ผล แทนค่าของเหตุ ด้วยตัวแปรต้น รวมทั้งแทนค่าของผลด้วยตัวแปรตาม โดยเหตุนั้นหากต้องการจะให้ตัวแปรตามสำเร็จลัพธ์แบบมีคุณภาพ ก็จำต้องไปพบตัวแปรต้นว่าควรเป็นยังไง หรือทำกระตุ้นเช่นไรเพื่อจะได้หาคำตอบให้มันคล้ายคลึงตามข้อสมมติที่ตั้งเอาไว้ตอนแรก รวมทั้งการจะได้มาซึ่งคำตอบก็จะต้องตั้งมั่นและก็แน่แน่วสำหรับเพื่อการทดสอบ ถ้าเกิดในด้านของเรื่องนี้ผมเห็นว่าหนังเข้าทำเป็นดีและก็ตอบปัญหาของหนังมากมายๆนะครับ หนังเขาเอ๋ยถึงความสุดขั้ว ตัวอย่างเช่นความสุดขั้วในด้านการศึกษาค้นคว้าวิจัย เผื่อสำเร็จลัพธ์ในสิ่งที่เราเองอยากได้ รวมทั้งมันก็ไปอย่างสุดขั้วจนถึงที่ว่าไม่สนใจถึงกรรมวิธี ไม่สนใจในด้านจรรยาบรรณอะไรเลย ระหว่างหว่างการทดสอบจะเป็นเยี่ยงไรก็ตามไม่ต้องสน พอใจแต่ให้ได้คำตอบมาก็แล้วกัน จุดนี้หนังก็ทำให้พวกเราเห็นได้ชัดเจนและก็ดีเหมือนกัน จากความรู้สึกส่วนตัวผมคิดว่าหนังมันไปถึงขั้นที่ว่า เขาต้องการจะแสดงให้พวกเรามองเห็นถึงความผิดพลาดของวิทยาศาสตร์ว่า มันมิได้สามารถตอบปัญหาได้ทั้งหมดทั้งปวง ถ้าเกิดเป็นวิทยาศาสตร์ที่เกิดขึ้นมาจากหมกมุ่นตามัว มันจะเปลี่ยนเป็นวิทยาศาสตร์ที่ทึ่มโง่เง่ามากกว่าความเชื่อถือเรื่องผีซะอีก ก็เลยเป็นการเสนอคำถามสำคัญอีกอย่างหนึ่งของหนังว่า วิทยาศาสตร์ที่ไม่มีสติ กับความเลื่อมใสเหนือธรรมชาติที่พิสูจน์มิได้นั้น อะไรมันโง่เขลามากยิ่งกว่ากัน ถ้าหากใครกันแน่มีความคิดว่านี่เป็นหนังผีแนวสยองขวัญแบบเต็มที่ ในแบบที่เป็นทางถนัดของ GDH หรือ GTH เนื่องจากด้วยชื่อผู้กำกับที่ประกันด้วยหนังสยองขวัญอย่างสุดๆที่เขาเคยทำมาทั้งยังสามประเด็นนั้น บอกเลยว่าอาจก่อให้ผิดหวัง ด้วยเหตุว่าฉากความสยองขวัญหรือฉากผีที่มาปรากฏในประเด็นนั้นมีน้อยมากๆแล้วก็มันก็เลยทำให้พวกเรามีความเห็นว่าเขาแทบมิได้ให้น้ำหนักกับความเป็นหนังผีสยองขวัญเลยด้วย แม้กระนั้น GHOST LAB ฉีกกฎทดสอบผี เขาย้ำไปที่การพยายามตรวจสอบความเลื่อมใสเรื่องสิ่งเหนือธรรมชาติ ไปพร้อมๆกับการสำรวจและก็พินิจเกี่ยวกับความหมายของการมีชีวิต จุดสำคัญของครอบครัว แล้วก็มิตรภาพระหว่างสหายมากยิ่งกว่า โดยเหตุนั้นน้ำหนักของอารมณ์ของหนังก็เลยย้ำไปที่ความเป็นดราม่ามากยิ่งกว่าสยองขวัญ คุณถ้าหากคนใดกันถูกใจหนังที่สื่อความหมายดีๆหัวข้อนี้ก็คงจะเข้าทาง ถ้าเกิดถามคำถามว่าภาพรวมของหนังหัวข้อนี้บันเทิงใจหรือเปล่า จะได้คำตอบ 2 คำตอบเป็น ในทางของความเป็นหนังผีไม่สนุกเลยนะครับ แม้ว่าจะมีผีออกมาบ้างหรือไม่ว่าจะมีจังหวะที่ทำให้พวกเราสงสัยบ้าง แม้กระนั้นมันมิได้ทำให้พวกเราทราบสุกสยองขวัญอะไรสักเท่าไหร่ แต่ว่าในทางของความเป็นหนังดราม่าก็จัดว่าบันเทิงใจ หนังเขาสามารถแทรกความหมายสำคัญเข้ามาในหนังเจริญ บู๊ต หนุ่มน้อยหน้าละอ่อน ที่เป็นลูกของนายทหารจากบ้านนอก สอบเข้าชั้นเรียนต่อสถานศึกษาช่างกลธนิยะได้ พร้อมด้วยได้ทุนสำหรับการศึกษา บู๊ตก็เลยได้ย้ายมาอาศัยอยู่ในกรุงเทวดา แล้วก็เริ่มศึกษาชีวิตความเป็นผู้เรียนช่างกลนับจากวันรับน้อง การได้ใส่เสื้อช้อป แล้วก็ท่องคำมั่นสัญญาว่าจะรักเพื่อนฝูงมากกว่าชีวิต นอกจากนี้บู๊ตยังได้รับการสอนสั่งว่าศัตรูที่เจอหน้าปุบปับจะต้องฆ่ากันให้ตาย โน่นหมายถึงสถานศึกษาก่อสร้างไทยปรับปรุง แต่ว่าผู้ที่มีธาตุคุณงามความดีอย่างบู๊ตก็ยังซื่อสัตย์สุจริตกับความถูกต้องแน่ใจอยู่ในตัวอยู่ดี วันหนึ่ง บู๊ตกับสหายบังเอิญข้ามถิ่นไปในเขตพวกไทยปรับปรุง ก็เลยได้ถูกคู่อริไล่ตีกึ่งกลางถนนหนทางแต่ว่าหนีมาได้ ผู้รายงานข่าวมาถ่ายรูปบู๊ตได้ทัน ก็เลยทำให้บู๊ตกลายเป็นคนที่ใครๆก็รู้จักในกลุ่มเพื่อนฝูงๆโดยไม่เจตนา แม้กระนั้นบู๊ตไม่สนใจลูกยุยงรุ่นพี่ที่สอนให้รู้จักหันเข้าสู้แบบลูกผู้ชายซะบ้าง ระหว่างนั้นบู๊ตใช้วิชาช่างของตนเองไปซ่อมแซมสนามกีฬาซึ่งอยู่ในเขตของพวกไทยปรับปรุง ก็เลยได้ถูกพวกไทยปรับปรุงเข้ามาหาเรื่อง แม้กระนั้นบู๊ตก็ไม่คิดสร้างปรปักษ์กับไทยปรับปรุงเพราะเหตุว่าอยากทำความดีเพื่อสังคมเฉยๆมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นแม้กระนั้น การศึกระหว่างสองสถาบันคู่พิพาทก็ไม่บางทีอาจยับยั้งได้ เพราะว่าสมาชิกมาเฟียโต๊ะสนุ๊กต้องการจะให้ทั้งสองฝ่ายตีกันเพื่อจะได้ประโยชน์ครั้งใหญ่สำหรับเพื่อการขายอาวุธแล้วก็ยา แล้วก็ท้ายที่สุด ในการแสดงดนตรีร็อกกลางเมือง ก็แปลงเป็นสนามรบลูกผู้ชายของทั้งสองฝ่ายจริงๆ วันหนึ่ง บู๊ตกับสหายบังเอิญข้ามถิ่นไปในเขตพวกไทยปรับปรุง ก็เลยได้ถูกคู่อริไล่ตีกึ่งกลางถนนหนทางแม้กระนั้นหนีมาได้ ผู้สื่อข่าวมาถ่ายรูปบู๊ตได้ทัน ก็เลยทำให้บู๊ตกลายเป็นคนมีชื่อเสียงในกลุ่มสหายๆโดยไม่เจตนา แต่ว่าบู๊ตไม่สนใจลูกยุยงรุ่นพี่ที่สอนให้รู้จักเบือนหน้าเข้าสู้แบบลูกผู้ชายซะบ้าง ระหว่างนั้นบู๊ตใช้วิชาช่างของตนไปซ่อมสนามกีฬาซึ่งอยู่ในเขตของพวกไทยปรับปรุง ก็เลยได้ถูกพวกไทยปรับปรุงเข้ามาหาเรื่อง แต่ว่าบู๊ตก็ไม่คิดสร้างปรปักษ์กับไทยปรับปรุงด้วยเหตุว่าอยากทำความดีเพื่อสังคมเฉยๆมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นอย่างไรก็ดี การสู้รบระหว่างสองสถาบันคู่พิพาทก็ไม่บางทีอาจยับยั้งได้ ด้วยเหตุว่าสมาชิกมาเฟียโต๊ะสนุ๊กต้องการจะให้ทั้งสองฝ่ายตีกันเพื่อจะได้ประโยชน์ครั้งใหญ่สำหรับเพื่อการขายอาวุธแล้วก็ยา แล้วก็สุดท้าย ในการแสดงดนตรีร็อกกลางเมือง ก็แปลงเป็นสนามรบลูกผู้ชายของทั้งสองฝ่ายจริงๆ